ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน ร่วมกับสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย จัดเปิดอบรมหลักสูตรพื้นฐานในการพิจารณา ชุดพระเครื่องเบญจภาคี พระสมเด็จวัดระฆังฯ, พระนางพญา กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก
มี นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ ต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคม เซียนพระชื่อดัง เป็นวิทยากรบรรยายความรู้ ในวันอาทิตย์ที่ 5 ส.ค. 2555 ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. ณ หอประชุมข่าวสด หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
สุดยอดพระเครื่องของเมืองไทย ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมมายาวนาน พระชุดเบญจภาคี ประกอบด้วยพระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ จัดสร้างโดย สมเด็จ พุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นตัวแทนยุครัตนโกสินทร์ พระซุ้มกอ เป็นตัวแทนยุคสุโขทัย พระนางพญา กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก เป็นตัวแทนยุคอยุธยา-พระพิษณุโลก สองแคว พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณ บุรี เป็นตัวแทนยุคอู่ทอง-สุพรรณภูมิ และพระรอด กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน เป็นตัวแทนยุคลพบุรี
พระเครื่องชุดเบญจภาคีนั้น งดงามด้วยพุทธศิลป์ เปี่ยมด้วยพุทธคุณ ถ้าอาราธนาเข้าชุดในสร้อยเส้นเดียวกันทั้ง 5 องค์ โดยให้ สมเด็จวัดระฆังฯ อยู่ตรงกลาง พระนางพญา อยู่ล่างซ้าย พระซุ้มกออยู่ล่างขวา พระผงสุพรรณอยู่บนซ้าย และพระรอด อยู่บนขวา ดูเหมาะสมลงตัวเป็นที่สุด
แต่ถ้าจะห้อยเพียงองค์เดียว พระนางพญาพิมพ์สาม เหลี่ยม มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับอาราธนาขึ้นคอทั้งสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็ก
ด้วยเพราะองค์มีขนาดเล็กกะทัดรัด
"พระนางพญา" เป็นพระกรุพระเก่าเนื้อดินเผามีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ พิมพ์ที่นิยมที่สุด คือ "พิมพ์เข่าโค้ง" รองลงมา พิมพ์เข่าตรง, พิมพ์อกนูนใหญ่, พิมพ์สังฆาฏิ, พิมพ์เทวดาหรือพิมพ์อกแฟบ และพิมพ์อกนูนเล็ก
"วัดนางพญา" ตั้งอยู่หลังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นวัดที่พระมเหสีของพระมหากษัตริย์เป็นผู้สร้างวัดนี้ไว้คู่กับวัดราชบูรณะ
พระเครื่องที่พบในกรุวัดนางพญา เท่าที่พบมีอย่างเดียวคือ "พระนางพญา" และเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากเป็นที่นิยมอยู่ในชุดเบญจภาคี การขุดพบพระครั้งแรกเมื่อปี 2444 กรุพระนางพญา เป็นซากปรักหักพังฝังจมดินอยู่บริเวณด้านหน้าของวัด การที่พบก็เพราะเหตุที่ทางวัดดำริจะปลูกสร้างศาลาเล็กๆ ขึ้นตรงบริเวณนั้น ครั้นพอขุดหลุมจะลงเสาศาล ก็ได้พบพระนางพญาจำนวนมากฝังจมดินอยู่กับซากกรุ และได้เก็บรวบรวมไว้ที่วัดนางพญานั่นเอง
ต่อมาได้มีการขุดพบพระนางพญาอีกเมื่อปี 2487 แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก
พระนางพญาพิษณุโลก พิมพ์ที่นิยมกันมากๆ ก็คือพิมพ์เข่าโค้งและพิมพ์เข่าตรง พระทั้งสองพิมพ์นี้มีขนาดไล่เลี่ยกัน และสำหรับพิมพ์เข่าตรงเองก็ยังจำแนกออกเป็นสองพิมพ์ คือพิมพ์เข่าตรง และพิมพ์เข่าตรง (มือตกเข่า) ซึ่งมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกันอีกด้วย
พระนางพญา ชื่อเป็นมงคล ใครได้มีโอกาสครอบครองจะมียศฐาบรรดาศักดิ์ ทรัพย์สินเงินทอง
ไม่ต่างอะไรกับ "นางพญา"
พุทธคุณขององค์พระนางพญา มีความเชื่อโดดเด่นด้านมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPVEEwTURjMU5RPT0=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น